12/4/10

ประโยคดี ๆ จากหนังสือ SME Thailand ฉบับ พ.ย.53

ได้หยิบหนังสือ SME Thailand ฉบับเดือน พ.ย. 53 เพื่อต้องการหา กรณีศึกษาประกอบการสอน ซึ่งฉบับนี้เป็นการสัมภาษณ์ Idol ของคนในวงการธุรกิจ การประกอบการหลายคน เช่น คุณตัน คุณวิกรม คุณศุภลักษณ์ ศ.ดร.ศรีศักดิ์ และดร.สิงห์ เป็นต้น ตัวอย่างประโยค เช่น

"คนไทยนอนอยู่บนขุมทอง แต่ไม่เคยรู้ตัว เราสนใจแต่ละครน้ำเน่า และข่าวคราวที่ไร้สาระ ทำให้เราซึมซับมุมมองที่ไม่ประเทืองปัญญาเสียจนเคยชิน"

"วันนี้เรามีบ้านอยู่ตรงทางสามแพร่งทำไมเราไม่ตั้งร้านค้า มัวแต่นั่งกราบไหว้ ขัดเลขขอหวยกันอยู่นั่นเอง เหล่านี้เป็นปัญหากรัดกร่อนความสามารถในการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจไทยอย่างมหาศาล เลิกงมงาย เลิกคอร์รัปชัน เลิกเรื่อยเปื่อย ถ้าเราสามารถเปลี่ยนข้อด้อยเหล่านี้ได้เราจะกลายเป็นประเทศที่เจริญที่สุดในภูมิภาค"

วิกรม กรมดิษฐ์

"ทุกคนมีข้อดีและข้อด้อย ไม่มีใครสมบูรณ์แบบ เราดูที่ความสามารถว่าเขาเด่นด้านไหน เหมาะกับงานรูปแบบใด แล้วเราก็ส่งเสริมให้ความสามารถและความรู้ของเขาให้เกิดประโยชน์กับงาน"

ศุภลักษณ์ อัมพุช

"จริง ๆ แล้วหลักในการทำธุรกิจมีหลักสำคัญเพียงไม่กี่ข้อ ขอให้เข้าใจใน 5 สิ่งนี้ก็พอ คือ หนึ่ง....เข้าใจลูกค้า ..สอง...เข้าใจพนักงาน สาม....เอาใจใส่ผู้ถือห้น สี่....รู้การตลาด ห้า...เลือกทำเลให้ดี แค่นี้ก็ทำธุรกิจได้แล้ว"

"ผมเปรียบเปรยการบริหารเป็นเหมือนเข็มนาฬิกา คนที่ทำงานเป็นเข็มวินาทีหรือทำงานตลอดเวลานั่นคือพนักงานทั่วไป เข็มนาทีอาจเดินช้าลง ตำแหน่งก็ใหญ่ขึ้น คนที่เป็นผู้นำคือเข็มชั่วโมง คนที่เป็น CEO ไม่จำเป็นต้องทำทุกอย่าง ถ้าทำตัวเป็นเข็มนาที นาฬิกาเรือนนี้ก็จะสับสนธุรกิจไปไม่ได้"

ตัน ภาสกรนที

5/18/10

สมการ

สมการ Perfect

ROMANCEMATHEMATICS
Smart man + smart woman = romance
ผู้ชายเท่ห์ + ผู้หญิงเก่ง = ความ โรแมนติก

Smart man + dumb woman = affair
ผู้ชายเก่ง + ผู้หญิงโง่ = ความใคร่*

Dumb man + smart woman = marriage
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงเก่ง = การแต่งงาน
Dumb man + dumb woman = pregnancy
ผู้ชายโง่ + ผู้หญิงโง่= ตั้ง ท้อง **

* OFFICE ARITHMETIC *
Smart boss + smart employee = profit
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องเก่ง = กำไร **
Smart boss + dumb employee = production
เจ้านายเก่ง + ลูกน้องโง่ = ผล ผลิต **
Dum! b boss + smart employee = promotion
เจ้านายโง่ + ลูกน้องเก่ง = เลื่อน ตำแหน่ง

Dumb boss + dumb employee = overtime
เจ้านายโง่ + ลูกน้อง โง่=OT อย่าง เดียว **

* SHOPPING MATH *

A man will pay $2 for a $1 item he needs.
ผู้ชายจ่าย 2 บาท ต่อ ของ 1 ชิ้นที่เขาต้องการ

A woman will pay $1 for items that she doesn't need.
แต่ ผู้หญิง จ่าย 1 บาท ต่อ ของหลายๆชิ้น ที่เธอไม่ต้อง การ **

* GENERAL EQUATIONS & STATISTICS *

A woman worries about the future until she gets a husband.
ผู้หญิงจะกังวลเกี่ยวกับอนาคตจนกว่าจะ มีสามี **
A man never worries about the future until he gets a wife.
แต่ ผู้ชายไม่เคยกังวลเลยเกี่ยวก ับอนาคตเลยจนกระทั่งมีภรรยา**
A successful man is one who makes more money than his wife can spend.
ผู้ชายที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาเงินได้มากกว่าที่ภรรยาใช้ **
A successful woman is one who can find such a man.
แต่ผู้หญิงที่ประสบความสำเร็จ คือ คนที่สามารถหาสามีได้อย่างคนข้างบน **

* HAPPINESS *

To be happy with a man, you must understand him a lot and love him a little.
การจะมีความสุขกับผู้ชายคนนึง คุณจะต้องเข้าใจเค้ามากๆ แต่รักเค้า น้อยๆ
To be happy with a woman, you must love her a lot and not try to understand her at all.
การจะมีความสุขกับผู้หญิงคนนึง คุณต้องรักเธอมากๆ และไม่ต้องพยายามอะไรในตัวเธอ ทั้งสิ้น **

* LONGEVITY *

Married men live longer than single men do, but married menare a lot more willing to die.
ผู้ชายที่แต่งงานแล้วจะมีอายุยืนกว่าชายโสด แต่ชายที่แต่งงานแล้วกลับ เต็มใจเลือกที่จะตายมากกว่าอยู่**

* PROPENSITY TO CHANGE *
A woman marries a man expecting he will change, but he doesn't. **
ผู้หญิงแต่งงานกับผู้ชายคนนึงและหวัง ว่าจะเปลี่ยน แปลงเค้าได้ แต่ผู้ชายไม่ เปลี่ยน*
A man marries a woman expecting that she won't change, and she does. **
ส่วน ผู้ชายแต่ง งานกับผู้หญิงและหวังว่าเธอคงจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เธอก็ เปลี่ยน **

* DISCUSSION TECHNIQUE *
A woman has the last word in any argument.
ผู้หญิงมักมี คำพูดสุดท้ายในการโต้เถียง
Anything a man says after that is the beginning of a new argument.
แต่อะไรก็ตามที่ผู้ชายพูดออกมาต่อจากนั้น จะเป็นการเริ่มการโต้เถียง ครั้งใหม่ *

4/25/10

อบรมเว็บ 2.0

วันที่ 26 เม.ย.53 เป็นวิทยากรอบรมเรื่องเว็บ 2.0 สนุกมาก

4/18/10

16 เม.ย.53 โทรศัพท์มือถือหาย

วันนี้ (16 เม.ย.53) ได้ยินเสียงโทรศัพท์ปลุกแต่เช้า เพื่อนที่ มาเลเซียโทรมา นัดจะเข้ามาเจอกันที่หาดใหญ่เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับ Research study และได้ออกไปพบเพื่อนประมาณ แปดนาฬิกา ใหน ๆก็ออกไปแล้วเลยถือโอกาสล้างอัดฉีดรถซะเลย แล้วให้เพื่อนที่มาจากมาเล มารับที่ร้านอัดฉีด จากนั้นก็ไปนั่งร้านกาแฟ Dot และพูดคุยกันจนเที่ยงแล้วไปทานอาหารเที่ยงที่ร้าน BirdNet บริเวณสายสอง แล้วปล่อยให้เพื่อนไปช้อปปิ้งตามอัธยาศัย เนื่องจากเราต้องไปศูนย์ Acer เนื่องจากทางช่างเค้าแจ้งมาว่าเครื่องต้อง format Harddisk ทั้งก้อนต้องให้เราไปเอา external harddisk มา back up ข้อมูล เราก็กลับบ้านไปเอาฮาร์ดดิสก์มาแล้วให้ทางศูนย์เค้าแบคอัพข้อมูลให้ก่อนที่จะฟอร์แมตฮาร์ดดิสก์

ส่งฮาร์ดดิสก์ให้ศูนย์เสร็จแล้วก็พาเด็กๆไปเที่ยวเล่นและไปถ่ายรูปที่สวนประวัติศาสตร์ติณสูลานนท์เชิงสะพานเกาะยอ เด็ก ๆไปเช่าจักรยานปั่นเล่น ส่วนเราก็ถ่ายรูปในสวนไปเรื่อย ๆ ถ่ายไปเพลิน ๆ เลยไม่รู้ว่าโทรศัพท์ตกหล่นที่ไหน มารู้อีกทีตอนขับรถพาเด็กๆ ไปทานอาหารเย็นที่ในเมืองสงขลาแล้ว และได้พยายามโทรเข้าเครื่อง และยังได้ยินเสียงแต่ไม่มีคนรับสายเลยคิดว่าคงยังไม่มีใครเก็บไป จากนั้นก็วนรถกลับไปในสวนเวลาประมาณสองทุ่มกว่า ซึ่งสวนปิดแล้วแต่บอกยามว่าลืมของเลยเข้าไปหาและพยายามโทรหาเครื่องตัวเองอย่างต่อเนื่องพร้อมกับเดินย้อนหากลับเส้นทางที่เคยเดิน และถ่ายรูป แต่ไม่มีวี่แวว มีสัญญาณแต่ไม่มีคนรับสาย ซักครู่เครื่องก็โดนตัดสายไป และพยายามโทรต่อเนื่องเพราะคิดว่คงมีใครหยิบไปและได้มีการตัดสายอย่างต่อเนื่องซักครู่เครื่องก็ปิดไป แสดงว่าเครื่องหายไปและโอกาสที่จะได้คืนน่าจะไม่มี (เพราะคิดว่าถ้าคนที่เอาไว้ตั้งใจจะคืนต้องรับสายและไม่ปิดเครื่องหนีหรอก) ก็เลยกลับบ้านแบบเสียความรู้สึก

กลับบ้านก็พยายามติดต่ออยู่ตลอด ประมาณเกือบห้าทุ่มก็มีสัญญาณว่าติดต่อไปแล้ว ก็เลยโทรกลับไป แต่เค้าก็ปิดเครื่องหนีซะอีก เราก็เลยโทรไประงับเบอร์นี้ จากนั้นก็มา Review เครื่องใหม่ โดยเฉพาะเครื่องที่มีแผนที่ เพราะว่าต้องรีบใช้เพื่อเดินทางไปต่างจังวหวัดในวันอาทิตย์นี้ ซึ่งที่ Review ที่เว็บ siamphone โดยที่ดู ๆ ไว้คือ Nokia 5230 Navigator และรุ่นใกล้ๆ เคียงกัน แต่ยังไรก็ยังเชื่อใจแผนที่ของ garmin ที่อยู่ดี และยังได้อ่าน ที่เค้า review เครื่อง ASUS GARMIN คาดว่าพรุ่งนี้ต้องไปดู

4/13/10

วันสงกรานต์ปี 53



ช่วงนี้สถานการณ์การเมืองไทยระหว่างรัฐบาล กับกลุ่มเสื้อแดงร้อนแรงเป็นอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและทหาร และผู้ก่อการร้าย (เค้าว่ากันอย่างนั้น) ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เฮ้อน่าสงสารประเทศไทย และคนไทย (มีหลายคนบอกว่าปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทยที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้เกิดจากจีนเจคสองคนขัดแย้งกันในเรื่องธุรกิจและความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งคู่ก็เลยเกิดความขัดแย้งกันทางความคิดจนทุกวันนนี้) สถานการณ์การเมืองร้อนแรง แต่อากาศก็ร้อนไม่แพ้กัน โดยเฉพาะวันที่ 13 เมษายน 53 เป็นวันสงกรานต์ แม้หลาย ๆ คนเล่นสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน แต่เราต้องรีบตื่นแต่เช้าขับรถไป Malaysia เพราะนัด advisor ไว้ ไปถึงด่านเจ็ดนาฬิกา กว่า ๆ แต่เจอคน (ไทย) ที่ด่านเยอะมาก เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวหลาย ๆ คนหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองไทยไปเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ กัน สุดท้ายก็มีและเจอแต่คนไทยด้วยกันในสถานที่ทอปฮิต เช่น คาเมรอน เก็นติ้ง KL และเซนโตซ่า

ใช้เวลาที่ด่านเกือบชั่วโมงเพราะคิวยาว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ด่านคงจะหยุดสงกรานต์กันหมดเลยเปิดช่องประทับพาสปอร์ตน้อยมากทำให้ต้องเข้าคิวกันยาวเหยียด หลุดออกจากด่านก็เข้าไป U ไปถึงก่อนเวลานัดนิดนึง และได้ discuss กับ advisor และประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ คือ theorical framework ของ research เพราะถ้า theorical framework ไม่ชัดเจน ประเด็นเรื่อง methodology ก็ไม่ต้องพูดถึง สรุปเอาเป็นว่า chapter 1 พอไปได้ ส่วน chapter 2 ต้อง review theorical framework แล้วค่อย review methodology ต่อไป

จากนั้นก็ขับรถเที่ยวถ่ายภาพเล่น (แต่อากาศร้อนมาก เลยถ่ายภาพภายใน U ไม่มากนัก) ช่วงบ่ายก็ขับรถกลับ ที่ด่านชายแดนเจอคน (Malay) เล่นน้ำสงกรานต์กันเยอะใช้ได้ แต่พอผ่านด่านนอกมาก กะมีเล่นน้ำกันประปราย เจอรถส่วนใหญ่มุ่งหน้าสู่หาดใหญ่มาเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ในเมืองซะมากกว่า

ขับรถกลับบ้านหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกลับมารดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงปลา ดีกว่า

4/9/10

ไปซ่อมคอมมาครับ

เช้าวันนี้ (9 เม.ย.53) ได้รับ sms จากศูนย์ Acer ว่าเครื่องคอมที่นำไปซ่อมเสร็จแล้ว (หลังจากนำไปซ่อม ซึ่งทางศูนย์แจ้งว่าจะต้องเปลี่ยน mainboard และ card VGA) กว่า 2 สัปดาห์มาแล้ว ก็ดีใจเพราะจะได้ทำงานที่ค้าง คาอยู่ (เพราะข้อมูลอยู่ในเครื่องหมดเลย มี backup ไว้น้อยมาก เพราะคิดว่าจะนำไปซ่อมไม่นาน) เบ็ดเสร็จค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนอะหลั่ยก้อแปดพันกว่า ๆ (ย้ำครับว่า 8,000 กว่าบาท)

เมื่อถึงไปที่ศูนย์ acer หาดใหญ่ เราก็ไปรับเครื่อง พร้อมจ่ายตังค์ค่าซ่อม แต่ทางศูนย์แจ้งว่า program windows เสีย แต่ทางร้านไม่ได้ลงให้ เราก็บอกว่าตอนที่แจ้งที่ศูนย์ (Call center) ให้ลง ตัว recovery ให้ด้วย (เนื่องจากโปรแกรมต้นฉบับมันเจ๊งไปตั้งนานแล้ว)และเราก้อลง XP แก้ขัดไปก่อน เค้าก็ OK จะลงให้แต่ต้อง format drive C: เราก็ OK แต่เค้าบอกกว่าเผลอ ๆ อาจจะต้อง format drive D: ด้วยเพราะ Windows XP จะไม่ยอม (เกี่ยวกันไม๊เนี๊ยะ) และที่สำคัญใน drive D: มีข้อมูลสำคัญๆ เยอะด้วยดิ ดังนั้น ก็เลยตัดสินใจไปซื้อ External Harddisk ใหม่ ขนาด 320GB ยี่ห้อ ควาย (Baffalo) ราคาเกือบ 2,500 บาท เพื่อต้องการ Backup ข้อมูล จากนั้นก็โทรไปเช็คที่ศูนย์ว่าลงโปรแกรมได้หรือไม่ และต้อง Format drive D: หรือไม่ (จะได้เอา External Harddisk) ไปให้ backup ข้อมูล แต่ทางศูนย์แจ้งว่า เครื่องอาการเดิม (เปิดแล้วดับดื้อ ๆ หรือบางทีเปิดไม่ติดเลย) ยังอยู่ (อ้าว เห็นว่า mainboard เสีย และเปลี่ยน mainboard ไปแล้ว ถ้าอาการเดิมยังอยู่ หรือวินิจฉัยผิด เรามิต้องเสียตังค์เปล่ารึ เนี๋ยก็ปาเข้าไป 10,000 กว่าแล้วน่ะ ซื้อเครื่องใหม่ได้ หรือ netbook เครื่องไหม่ได้สบาย) เอาเป็นว่าก็คอยลุ้นต่อไปว่าอาการจะเป็นอย่างไร (แต่ถ้าเค้าบอกว่าอาการเป็นอย่างอื่นอีก อาจจะต้องจ่ายตังค์เพิ่มอีกจะทำยังไงดี????)

วันนี้เลยขับรถกลับบ้านแบบอาการเซ็ง ๆ แต่ยังมีงานต้องสะสางคือเตรียมตัวสอนพรุ่งนี้ และเตรียมส่ง งาน chapter 1-3 ซึ่งนัด suppervisor ว่าจะไปพบแกสัปดาห์หน้า (ช่วงเทศการสงกรานต์)กลับมาเปิดเครื่องที่บ้านและจะทดสอบ External Harddisk ใหม่ซะหน่อย .........พอเปิดเครื่องอ้าวววววววว เครื่องเป็นไรวะ Hank ไปเลย เข้า windows ไม่ได้......ปิดปุ่ม power แช่ไว้ดีกว่าแล้วค่อย boot ใหม่ ซักครู่ boot ได้ แต่เครื่องมันดันฟ้องว่า หา USB drive ไม่เจอ ลอง restart ใหม่หลายรอบ search hardware, add new hardware, ทำทุกวิถีทางแต่หา USB ไม่เจอ .....ทำไงดีหรือว่าอาจจะมี virus เพราะ ESET ไม่ได้ update นานแล้ว ก้อเลย download มาแต่ก็ยังแก้ไม่ได้.....เฮ้อ....ตกลงงานก็ไม่ได้ทำ USB เปิดไม่ได้ อ่านข้อมูลไม่ได้ .......วันนี้วันอะไรทำไมถึงเป็นอย่างนี้

ไปดูข่าวเสื้อแดงดีกว่าวันนี้ไม่ต้องทำอะไรมันแล้ว