ช่วงนี้สถานการณ์การเมืองไทยระหว่างรัฐบาล กับกลุ่มเสื้อแดงร้อนแรงเป็นอย่างมากหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่างผู้ชุมนุมและทหาร และผู้ก่อการร้าย (เค้าว่ากันอย่างนั้น) ทำให้เกิดผู้เสียชีวิตจำนวนมาก เฮ้อน่าสงสารประเทศไทย และคนไทย (มีหลายคนบอกว่าปัญหาความขัดแย้งของประเทศไทยที่เกิดขึ้นอยู่ตอนนี้เกิดจากจีนเจคสองคนขัดแย้งกันในเรื่องธุรกิจและความเห็นแก่ตัวด้วยกันทั้งคู่ก็เลยเกิดความขัดแย้งกันทางความคิดจนทุกวันนนี้) สถานการณ์การเมืองร้อนแรง แต่อากาศก็ร้อนไม่แพ้กัน โดยเฉพาะวันที่ 13 เมษายน 53 เป็นวันสงกรานต์ แม้หลาย ๆ คนเล่นสงกรานต์กันอย่างสนุกสนาน แต่เราต้องรีบตื่นแต่เช้าขับรถไป Malaysia เพราะนัด advisor ไว้ ไปถึงด่านเจ็ดนาฬิกา กว่า ๆ แต่เจอคน (ไทย) ที่ด่านเยอะมาก เนื่องจากช่วงวันหยุดยาวหลาย ๆ คนหลีกหนีความวุ่นวายในเมืองไทยไปเที่ยวมาเลเซียและสิงคโปร์ กัน สุดท้ายก็มีและเจอแต่คนไทยด้วยกันในสถานที่ทอปฮิต เช่น คาเมรอน เก็นติ้ง KL และเซนโตซ่า
ใช้เวลาที่ด่านเกือบชั่วโมงเพราะคิวยาว ประกอบกับเจ้าหน้าที่ด่านคงจะหยุดสงกรานต์กันหมดเลยเปิดช่องประทับพาสปอร์ตน้อยมากทำให้ต้องเข้าคิวกันยาวเหยียด หลุดออกจากด่านก็เข้าไป U ไปถึงก่อนเวลานัดนิดนึง และได้ discuss กับ advisor และประเด็นที่ยังไม่เคลียร์ คือ theorical framework ของ research เพราะถ้า theorical framework ไม่ชัดเจน ประเด็นเรื่อง methodology ก็ไม่ต้องพูดถึง สรุปเอาเป็นว่า chapter 1 พอไปได้ ส่วน chapter 2 ต้อง review theorical framework แล้วค่อย review methodology ต่อไป
จากนั้นก็ขับรถเที่ยวถ่ายภาพเล่น (แต่อากาศร้อนมาก เลยถ่ายภาพภายใน U ไม่มากนัก) ช่วงบ่ายก็ขับรถกลับ ที่ด่านชายแดนเจอคน (Malay) เล่นน้ำสงกรานต์กันเยอะใช้ได้ แต่พอผ่านด่านนอกมาก กะมีเล่นน้ำกันประปราย เจอรถส่วนใหญ่มุ่งหน้าสู่หาดใหญ่มาเพื่อเล่นน้ำสงกรานต์ในเมืองซะมากกว่า
ขับรถกลับบ้านหลีกหนีความวุ่นวายของเมืองกลับมารดน้ำต้นไม้ ทำความสะอาดบ่อเลี้ยงปลา ดีกว่า