12/28/07

The Secret of Leadership "เคล็ดลับ" ผู้นำ

เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายของปี 2007 แล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ในที่ทำงานเริ่มเฉลิมฉลองกัน ไม่มีใครอยากทำงานหนักๆ ในห้วง 2 อาทิตย์สุดท้ายของปีแล้ว ใช่ไหมคะ หากท่านผู้อ่านที่เป็นผู้บริหารพอมีเวลาว่างๆ เบาๆ ลองค่อยๆ หลับตา ยิ้มให้กับตัวเองอย่างมีความสุข นึกขอบคุณลูกน้องทุกๆ คนที่ช่วยกันทำงานตลอดปีที่ผ่านมาให้แก่ท่าน ขอบคุณทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำให้เราทำงานผ่านพ้นมาอีกหนึ่งปีแล้ว และจินตนาการถึงปี 2008 ต่ออย่างสุขใจด้วยความลับของการเป็นสุดยอดผู้นำในปี 2008 ที่ดิฉันนำมาฝากค่ะ
ผู้นำลองใช้กฎแห่งการดึงดูดบอกกับตัวเองเสมอตลอดปี 2008 นี้ค่ะ อย่างมีความสุขว่าท่านเห็น ทีมทำงานของท่าน องค์กรของท่านรุ่งเรือง เจริญเติบโต มีลูกน้องผูกใจและผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement)
ให้ท่านคิดถึงบ่อยๆ และเชื่อด้วยความจริงใจค่ะว่าสิ่งที่ท่านต้องการมันเป็นจริงแล้วลองลงมือทำตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ โดยหันมาดูและเล่นเรื่องคนอย่างจริงจัง เป็นอันดับต้นๆ เลยค่ะ
- ทำความรู้จักลูกน้องของท่านอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการบ้าง ก็จะดีไม่น้อยเลยค่ะ เพราะท่านก็จะได้ทราบว่าลูกน้องมีความต้องการอะไร มีเป้าหมายอะไรในชีวิต ในปี 2008 นี้ เผื่อว่าท่านจะได้ช่วยสนับสนุนเขาได้ในบางเรื่อง ดิฉันไม่ได้แนะนำให้เข้าไปก้าวก่ายในชีวิตลูกน้องในลักษณะลงลึกนะคะ แต่อยากให้ผู้นำได้ทำความรู้จักลูกน้องบ้างระดับหนึ่ง พองามค่ะ และท่านจะรู้ว่ามันได้ใจเขามากมายเลยค่ะ
- เริ่มต้นปี 2008 ผู้นำต้องคุยกับลูกน้องสายตรงเป็นรายบุคคลนะคะถึงการตั้งเป้าหมายการทำงานของแต่ละคน เพื่อการบริหารผลการปฏิบัติงานของลูกน้องได้อย่างชัดเจน (Performance Management) บอกความคาดหวังที่ชัดเจนให้ลูกน้องรับทราบ รับรู้ และยอมรับกติกากันแต่ต้นปีค่ะ พนักงานจะทำงานได้ดี เมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจน และทุกๆ ไตรมาสก็ชวนลูกน้องมาคุยเรื่องผลการปฏิบัติงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อตรวจดูว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้แต่ต้นปีนั้น ลูกน้องมีปัญหาไหม ผู้นำจะได้เข้าไปช่วยเหลือได้ค่ะ
- ผู้นำต้องดูแล จัดสรร ทรัพยากรที่จำเป็นต่างๆ ในการทำงานให้กับลูกน้อง เพื่อให้ลูกน้องทำงานได้สะดวก คล่องตัวค่ะ และถ้าจะทำให้ลูกน้องประทับใจ ผู้นำควรถามลูกน้องว่าอยากได้อะไรเพิ่มเติมอีก เพื่อให้การทำงานราบรื่นยิ่งขึ้น
- มั่นใจว่าปี 2008 นี้ ท่านจะได้ทำการฝึกอบรมลูกน้อง และ ทำการฝึกอบรมซ้ำ (Retrain) ในเรื่องทักษะการติดต่อสื่อสารและการมีปฏิสัมพันธ์ มนุษยสัมพันธ์ ทักษะการแก้ปัญหาและการตัดสินใจ ทักษะการบริหารความขัดแย้ง เป็นต้น เพราะทักษะเหล่านี้ เป็นทักษะที่สำคัญที่จะช่วยให้ลูกน้องเรามีปฏิสัมพันธ์ ติดต่อสื่อสาร เข้าใจเรา เข้าใจเพื่อนร่วมงาน เข้าใจลูกค้า และเข้าใจคู่ค้าดีขึ้นค่ะ การติดต่อสื่อสารที่ดีขึ้นระหว่างกันจะส่งผลให้ความเครียดลดลง และได้งานที่มีคุณภาพตามมาค่ะ
- ยุคนี้เป็นยุคของการจัดการความรู้ และปี 2008 นี้ เรื่องของ Knowledge Management ก็ยังมาแรงอยู่ค่ะ ดังนั้น การ Show & Share ผู้นำต้องยึดมั่น ถือมั่น หมกมุ่นอยู่กับมันตลอดเวลา ทุกครั้งที่ท่านมีโอกาส ลงมือทำอย่างตั้งใจค่ะ โดยการ share และพูดถึงอย่างชื่นชมในเรื่องที่ลูกน้องท่านทำและประสบความสำเร็จ และพูดถึงเรื่องที่องค์กรประสบความสำเร็จอย่างมีชีวิตชีวา เรื่องไหนที่ผิดพลาดก็ share และหาทางแก้ไขร่วมกัน เพื่อนำมาเป็นบทเรียน ให้ท่านหลีกเลี่ยงเรื่องราวการพูดที่ทำลายขวัญ การพูดถึงบุคคลและองค์กรในแง่เสียหาย เหล่านี้ห้าม Show & Share ค่ะ
- ผู้นำต้องสำนึกรู้คุณลูกน้องค่ะ ต้องตบรางวัลให้แก่ลูกน้องเมื่อยามที่เขาทำดี ผู้นำยุคปี 2008 ต้องรู้ว่าจะต้องเลือกให้รางวัลที่มีความหมายต่อผู้ได้รับ (คือลูกน้อง) ดังนั้นจึงเป็นความจำเป็นของผู้นำอย่างยิ่งและเป็นสิ่งสำคัญของผู้นำที่จะต้องใส่ใจรู้จักคนของคุณให้ดี จะได้ตบรางวัลได้ถูกใจค่ะ
- หมั่นสอบถามลูกน้องเสมอๆ ค่ะ ว่าท่านเป็นอย่างไรบ้างในสายตาพวกเขา เป็นการฝึก Open Minded ค่ะ และฝึกการเป็นแบบอย่างที่ดีค่ะ เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะขอ feedback ตรงๆ จากลูกน้องนะคะ เป็นใครก็ไม่ค่อยกล้าบอกความจริงกันหรอกค่ะ เพราะนายเป็นผู้มีอิทธิพลโดยตรงต่อการประเมินผลของลูกน้อง เคยได้ยินใช่ไหมคะว่า คนที่พูดความจริงตายไปแล้วทุกราย วิธีการลองทำดังนี้ค่ะ
§ ทำแบบฟอร์มให้ลูกน้องลองประเมิน 360 องศาดูค่ะ โดยที่ไม่ต้องให้ลูกน้องลงชื่อผู้ประเมินค่ะ อาจได้ข้อมูลระดับหนึ่ง เปิดใจกว้างเตรียมตัว เตรียมใจกับผลที่ได้รับค่ะ บอกกับตัวเองตลอดเวลาค่ะว่า “ฉันได้ข้อมูลนี้มาเพื่อการพัฒนาตัวเอง เพื่อเป็นผู้นำที่น่ารักของใครต่อใคร ขอบคุณผู้ประเมินที่สละเวลาเป็นกระจกสะท้อนให้ฉัน” หรือ
§ ลงมือทำ Dialog หันหน้าพูดคุยกับลูกน้อง โดยใช้คำถามเริ่มต้นเช่น ปี 2008 นี้ ท่านตั้งเป้าหมายสำคัญๆ ในการพัฒนาตนเองไว้หลายเรื่อง หนึ่งในเรื่องที่ท่านคิดว่าสำคัญมากคือการพัฒนาตนเองในฐานะที่เป็นผู้นำหรือผู้บริหารของทีมงานนี้ ขอให้ลูกทีมช่วยบอกหน่อยว่าปี 2008 นี้ ลูกทีมต้องการให้ท่านทำอะไรที่แตกต่างจากปีที่ผ่านมาบ้าง หรือ ถามลูกทีมว่าในปี 2008 นี้ พวกเขาอยากให้ท่านทำอะไรบ้าง เพื่อที่จะทำให้พวกเขาทำงานง่ายขึ้น เมื่อได้รับคำตอบ หรือ feedback แล้ว ให้ท่านน้อมรับฟังอย่างใจที่เปิดกว้างและขอบคุณลูกน้องท่านด้วยความเต็มใจค่ะ และนำข้อมูลที่ท่านได้รับมาปรับใช้อย่างเป็นรูปธรรมค่ะ
ความลับอีกข้อหนึ่งคือท่านผู้นำจะต้องรู้สึกว่าได้รับสิ่งที่ต้องการเห็นว่าทีมทำงานของท่าน องค์กรของท่านรุ่งเรือง เจริญเติบโต มีลูกน้องผูกใจและผูกพันต่อองค์กร (Employee Engagement) แล้วความอัศจรรย์จะเกิดขึ้นค่ะ ว่าท่านจะได้รับจริงๆ ในปี 2008 นี้ค่ะ

--------------------------------------------
โดย ดร.เกศรา รักชาติ: Ph.D. Leadership and Human Behavior

No comments: